TravelVietnam
Welcome to TravelVietnam
ครั้งนี้จะพาทุกท่านไปประเทศเพื่อนบ้าน บินแป๊บเดียวก็ถึง ดินแดนแห่งธรรมชาติ ท้องฟ้าสวย ทะเลใสนั้นก็คือ ประเทศเวียดนาม นั้นเอง ในบทความนี้ พวกเราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวทั่วประเทศเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยว ที่กิน หรือแหล่งช้อปปิ้ง ก็ไปที่ยวตามกันได้ง่าย ๆ
ทะเลทรายขาว มุยเน่
มาเริ่มกันที่แรก กับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศเวียดนาม ซาฮาร่าแห่งเวียดนาม หรือชื่อทางการว่า ทะเลทรายมุยเน่ (the white sand dunes of Mui Ne) ตั้งอยู่ที่จังหวัด บิ่ญถ่วน พิกัดอยู่บริเวณภาคกลางตอนใต้ โดยทะเลทรายมุยเน่นี้ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร ถือเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนามเลย แต่ความโดดเด่นของที่นี่คือ เป็นทะเลทรายที่มี 2 สีคือ สีขาวและสีแดง รวมถึงมีบึงน้ำจืดด้วยเป็นแลนมาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปเช็คอินกัน หากถามว่านักท่องเที่ยวจะมาสถานที่แห่งนี้ มีฮาวทูยังไงบ้าง เริ่มแรกเลยคือ เพื่อน ๆ ต้องเช่ารถ ATV จะขับเองหรือให้สตาฟขับก็ได้ แล้วเตรียมเสื้อผ้า หน้าผมให้เรียบร้อย ใครมีพร็อพเยอะ งัดมาใช้ถ่ายรูปกันให้หมด แต่ต้องแอบเตือนนิดนึงว่า กระแสลมค่อนข้างแรง เก็บข้าวของกันดี ๆ นะคะ อะไรปลิวหายไปตามเก็บไกลเลย แล้วในช่วงเวลานาทีทองที่แนะนำให้ทุกคนมาก็คือบรรยากาศในตอนเช้า ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดยามเช้าที่สาดแสงกระทบกับพื้นทะเลทรายสีขาว เมื่อเราโพสต์ท่าถ่ายรูปกันแล้ว ตัดกับสีท้องฟ้ายามเช้าที่มีเมฆน้อย หรือจะเป็นอีกช่วงคือ หลัง 15.00 น. เป็นต้นไป เพราะจะได้ไม่ต้องเจอแดดแรง ถ่ายรูปออกมาหน้าไม่มืด ดังนั้นช่วงพีคเอาเวอร์แบบนี้ คือจะได้รูปภาพสวยแพง ไฮโซ ซาฮาร่ามุยเน่ สุด ๆ
เกาะฟูโกว๊ก
มาชมความงดงามของธรรมชาติกันต่อที่ ทางตอนใต้ของเวียดนาม เกาะฟูโกว๊ก ตั้งอยู่ที่จังหวัดเคียนเกียง ที่โดดเด่นทั้งเรื่องของ เป็นหัวเมืองขนาดใหญ่ ทั้งการประมง เกษตรกรรมและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกด้วย นักท่องเที่ยวอย่างเราจะสัมผัสได้ถึงดินแดนธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเลอุดมสมบูรณ์ รายล้อมเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้, น้ำทะเลสีฟ้าสดใสและ หาดทรายสีขาวสะอาดตา โดยชายหาดที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือ หาดสาว หรือชื่อผู้คนนิยมเรียกกันก็คือ หาดปลาดาว เพราะที่บริเวณชายหาดขาวละเอียดแห่งนี้ ในช่วงตอนพระอาทิตย์จะตกของทุก ๆ วัน จะมีฝูงปลาดาวขึ้นมานอนเต็มชายหาดไปหมด จึงทำให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวแบบเรามาก ๆ ทั้งน้องปลาดาวตัวเล็กและตัวใหญ่ขึ้นมา ให้เราได้พบเห็นความน่ารักกับแบบใกล้ชิด งั้นดื่มด่ำกับธรรมชาติกันพอสมควรแล้ว ต้องไปเติมแต้มบุญกันที่ เจดีย์โห ก๊วก ที่ตั้งอยู่ที่บนเนินเขา ฝั่งชายหาดทางตะวันออก เชิญเพื่อน ๆ มาไหว้เทพเจ้ากันเล็กน้อย แล้วลองสงบจิต สงบใจ ฟังเสียงของธรรมชาติและวิวสวยระดับพรีเมียมรอบ ๆ ตัว บอกได้เลยว่าจุดชมวิวอันเงียบสงบแห่งนี้ คุ้มค่าแก่การมาเยี่ยมชมให้เราได้สัมผัสกับวิวมุมสูงของเมืองฟูโกว๊กแบบ vip
บาน่า ฮิลล์
ต้องตั้งสติกันดี ๆ ว่านี้ตัวฉันแลนด์ดิ้งมาที่ฝรั่งเศสหรือเวียดนามเนี่ย บรรยากาศสวยเหมือนไปเที่ยวยุโรปเลยทุกคน บานา ฮิลล์ ตั้งอยู่บนเทือกเขาเจื่องเซิน แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ตั้งอยู่ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีทั้ง ที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ในโลเคชั่นเดียวกัน โดยห่างจากสนามบินประมาณ 40 กิโลเมตร บรรยากาศของที่นี่คือเป็นสไตล์หมู่บ้านที่มีตึกสูงคล้ายเมืองตามยุโรปและมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย สถาปัตยกรรมแรกที่สะดุดตานักท่องเที่ยวอย่างเรานั้นก็คือ สะพานมือยักษ์ Golden Bridge ที่เป็นไฮไลท์ที่ใครมาเที่ยวที่นี่แล้ว ไม่ควรพลาดที่จะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก ทั้งเป็นจุดที่ถ่ายรูปสวยและชมวิวธรรมชาติได้แบบรอบตัว 360 องศา สะพานมือยักษ์ที่ว่าสูงแล้ว แต่เรายังต้องมูฟตัวเองไปต่อ ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อไปส่วนของบานาฮิลล์ ในบริเวณด้านบนนี้ มีทั้งส่วนของโรงแรม Mercure Danang French Village Bana Hills สวยสะดุดตาทั้งบรรยากาศด้านนอก รวมถึงในห้องพักด้วยการตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีสถานที่ให้เพื่อนไปเที่ยวเล่นและถ่ายรูปอีกเยอะมาก ทั้งสวนสนุก Fantasy Park ที่มีเครื่องเล่นสุดมัน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างเช่น เครื่องเล่นท้าพิสูจน์คนชอบความหวาดเสียวอย่าง รถไฟเหาะ Alpine Coaster หรือ Tower Drop หรือใครเป็นสายปลอดภัยแนะนำเป็น นั่งรถราง Funicular เบา ๆ ก็พอนะคะ หากใครเป็นสายเดินชิลล์เก็บบรรยากาศเฉยๆ แนะนำเป็นเดินชมเมืองและถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ที่หมู่บ้านฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิว หอระฆัง โรงบ่มไวน์และสวนดอกไม้ ก็มีนะ เป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวน่าไปเช็คอิน ไม่ว่าจะมาเป็นคู่รักหรือครอบครัว ก็น่าพาทั้งแก๊งไปเที่ยวกัน เที่ยวเต็มวันสนุกสุด ๆ ไม่มีเหนื่อย บอกเลยว่าไปที่เดียวคุ้มสุดมาก
สวนสนุกวินเพิร์ล
ญาจาง เมืองตากอากาศติดทะเลยอดฮิตของเวียดนามใต้ แล้วยังเป็นที่ตั้งของ สวนสนุกขนาดใหญ่ครบวงจรที่สุดอย่าง สวนสนุกวินเพิร์ล สถานที่ยอดอดฮอตฮิตที่ใครเดินทางมาประเทศเวียดนามนั้น ไม่ควรพลาดเลย สวนสนุกวินเพิร์ล ที่เมืองญาจางแห่งนี้ แบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ ๆ คือ โซนสวนน้ำ, โซนเครื่องเล่น, โซนอควาเรียมและ โซนสวนสัตว์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้เพื่อน ๆ มากันเลยนะคะ เดินชมวิวทะเลก็ได้ เล่นเครื่องเล่นมากมายก็ดี สนุก เจ็บคอเพราะกรี๊ดเยอะ กิจกรรมแน่น มีอะไรให้ทำตลอดทั้งวัน เพลิดเพลินตั้งแต่เช้ามืด จนไปถึงตอนกลางคืนเลย หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็มาเที่ยวกันได้ สวนสนุกวินเพิร์ล มีเวลาเปิดทำการตั้งแต่ 08:30 – 21:00 น. มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใหญ่ 500.000 VND, เด็ก 400.000 VND และเด็กสูงไม่เกิน 140 ซม. เข้าฟรี
โบสถ์ทันดินห์
ใครที่ไปเที่ยวเวียดนามกันแบบคู่รัก หรืออยากขยับสถานะจากคนคุยมาเป็นคนมีแฟน ต้องพากันมาเพิ่มความโรแมนติก ที่สถานที่แห่งนี้ โบสถ์สีชมพู หรือชื่อจริง ๆ ว่าโบสถ์ทันดินห์ อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี แห่งเมืองโฮจิมินห์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ว่าจะชาวเมืองหรือนักท่องเที่ยว ที่หากใครมา นครโฮจิมินห์ ต้องถ่ายรูปกับสถานที่แห่งนี้กันไว้เป็นที่ระลึก ความสำคัญของโบสถ์สีชมพูนี้ เริ่มตั้งแต่ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1876 เป็นช่วงที่ฝรั่งเศส ยังถือครองอาณานิคมเวียดนาม โบสถ์ทันดินห์นี้ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก แหล่งศูนย์รวมจิตใจของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ แล้วยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วย ความโดดเด่นที่สะดุดสายมาผู้คนคือ ทั้งเป็นอาคารที่สูงและมีสีชมพูสดใส พร้อมด้านบนมีระฆังขนาดใหญ่ 2 แห่ง ที่ทำหน้าที่ตีบอกเวลาทุก ๆ ชั่วโมง โดยรายละเอียดสถาปัตยกรรมเป็นแบบนีโอโรมาเนสก์ ทั้งความหนาของกำแพง ประตูมีความโค้งประทุนแล้วยังมีเศษเสี้ยวของ สถาปัตยกรรมโกธิกและเรเนซองส์ผสมอยู่ด้วย คือบริเวณโครงสร้างหลังคามียอดหอคอยเป็นโค้งแหลม
ทุ่งไฮเดรนเยีย
สวนไฮเดรนเยียแห่งเมืองดาลัด นอกจากการเตรียมตัวเอง ให้หน้าผมพร้อม ชุดเดรสสวย ๆ ต้องมีแล้ว การมีเพื่อนเป็นตากล้อง ที่สามารถเก็บทุกชอตความสวยของเราได้ ถือเป็นหนึ่งอาวุธลับที่ทุกทริปเที่ยว เราจะขาดเพื่อนรักตำแหน่งนี้ไปไม่ได้ ทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่แห่งนี้ เมื่อเพื่อน ๆ ได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง จะพบกับว่า อากาศที่นี่ค่อนข้างเย็นสบาย อุณหภูมิปกติของเมืองดาลัดจะอยู่ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปคู่กับความสวยงามของดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าอมม่วง ซึ่งจะเสียค่าเข้าคนละ 30,000 VND หรือ 45 บาทเท่านั้นเอง สวนไฮเดรนเยีย เมืองดาลัดนี้ เป็นจุดท่องเที่ยวที่รู้สึกสบายตา สบายใจ เพราะหันไปทางไหนก็จะเจอแต่ ท้องฟ้า, สวนดอกไฮเดรนเยียที่ปลูกไว้เป็นขั้นบันได และในส่วนของจุดถ่ายรูป ที่เราสามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปเพื่อให้ภาพแบล็คกราวของเรา เป็นสวนไฮเดรนเยียแบบสุดลูกหูลูกตาเลย ทีมงานแนะนำเลยค่ะว่า มาเที่ยวเวียดนามทั้งที อยากให้แวะไปเช็คอินกันสักครั้ง ถ่ายรูปสวยทุกมุม แม้นักท่องเที่ยวจะเยอะ แต่สวนดอกไม้เยอะกว่ามาก อยู่ได้ทั้งวันไม่มีเวลาจำกัด อากาศดีหายใจฉ่ำปอด เดินชมความงามของไฮเดรนเยียแบบสโลว์ไลฟ์ได้เลยสุดท้ายคือเป็นสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีนะคะ แต่ช่วงปลาย ๆ ปี จะเป็นช่วงที่บรรดาเหล่าไฮเดรนเยียจะออกดอกบานเยอะและสวยที่สุด
น้ำตกบ่านซก
ล่องเรือแพมาต่อ เพื่อมาชมความงามของธรรมชาติ สวยอลังการงดงามแบบตกตะลึง น้ำตกบ่านซก ที่คาบเกี่ยวพื้นที่ระหว่างดินแดน 2 ประเทศไว้ด้วยกันคือ มณฑลแด๊กซินของจีน และเมืองชุงขันของเวียดนาม เพื่อน ๆ จะรู้สึกได้ถึงความบริสุทธิ์ของอากาศ ความสดชื่นของละอองน้ำที่ปะทะกับใบหน้าของเราเรื่อย ๆ ขณะเรากำลังแล่นเข้าไปใกล้บริเวณน้ำตกแห่งนี้ โดยความสำคัญของน้ำตกบ่านซกคือ เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และจัดเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก มีลำดับชั้นของน้ำตกที่แตกต่างกันไป แต่ความสวยงามอื่น ๆ ที่เราพบได้อีกคือ น้ำตกบริเวณนี้ได้รวบรวมความงามธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งยอดเขาหินปูน, ผืนน้ำสีเขียวมรกตที่ใสสะอาดและ ความร่มรื่นของต้นไม้จำนวนมาก ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้กับผู้คนทุกช่วงวัยเลยนะคะ หากใครสนใจมาชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติด้วยตาตัวเอง ก็สามารถมาเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าจะให้ดี แนะนำให้มาในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ดีกว่าเพราะว่าเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก เลยเป็นสาเหตุให้มีปริมาณน้ำตกไหลลงมาบริเวณด้านล่างเยอะ รับรองมาแล้วไม่ผิดหวังได้ชมภาพความงามราวกับดินแดนเมืองน้ำตกแบบที่หาชมจากที่ไหนไม่ได้
ฮาลองเบย์
ออกทะเลกันบ้างดีกว่า กับอีกหนึ่งที่เที่ยวสำคัญของเวียดนามเลย อ่าวฮาลองหรืออีกชื่อหนึ่งที่คุ้นหูมากกว่าคือ ฮาลองเบย์ โลเคชั่นนี้เป็นอ่าวทางตอนเหนือของเวียดนาม ที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวกับอ่าวตังเกี๋ย แต่เราไม่ได้พาเพื่อน ๆ มาชมความงามของธรรมชาติ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราจะพาทุกท่านไปตั้งแต่ชมท้องทะเลสวยสีฟ้าคราม สัมผัสน้ำทะเลเย็น ๆ พร้อมดูหมู่เกาะน้อยใหญ่ แบบวิถีนักท่องเที่ยวสักเล็กน้อย จากนั้นเราจะพาทุกท่านไปต่อกันที่ Queen Cable Car รถกระเช้าลอยฟ้าแบบ 2 ชั้น ที่เก๋ไปอีกคือมีดีกรีว่าเป็นรถกระเช้าลอยฟ้าใหญ่ที่สุดในโลก สามารถจุคนได้มากถึง 250 คนต่อเที่ยว เพื่อพาทุกท่านไปยังจุดสูงสุดบนภูเขาบาร์เดลล์ ซึ่งกิจกรรมระหว่างทางนี้เอง ที่เป็นไฮไลท์สำคัญ ที่เราก็จะได้ชมวิวมุมสูงของฮาลองเบย์ ว่าน่านน้ำแห่งนี้สวยยิ่งกว่าระดับ 4k จนลืมเรื่องกลัวความสูงกันไปเลย อุตส่าขึ้นไปบนยอดเขาแล้ว ถ้าจะให้ลงเลยคงจะเสียเที่ยว งั้นต้องไปนั่งชิงช้าสวรรค์ Sun Wheel สีแดงอันใหญ่ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของฮาลองเบย์ บริการให้นักท่องเที่ยวนั่งได้ทั้งในตอนกลางวันและยามค่ำคืน แล้วถือเป็นอีกหนึ่งทริค หากมีเพื่อนในแก๊งเป็นโลกกลัวความสูง ชวนกันมานั่งชิงช้าสวรรค์นี้ ชมบรรยากาศยามค่ำคืนกัน น่าจะดีกว่า เพราะความสวยของธรรมชาติและแสงไฟของตึก ราม บ้าน ช่อง จะสะกดสายตา ชวนให้เราเก็บภาพแบบได้ไม่มีเบื่อเลย
ตลาดกลางคืน เกิ่นเทอ
ไปหาซื้อของฝาก ช้อปของกินแบบจริง ๆ จัง ๆ กันบ้าง ที่เที่ยวเวียดนาม เมืองเกิ่นเทอ ต้องมาที่ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ กันนะคะทุกคน เป็นตลาดกลางคืนที่อารมณ์คล้าย ๆ กับ ตลาดกลางคืนสุดคึกคักบ้านเราเลย โดยบรรยากาศภายในตลาดจะคึกคักอยู่เป็นประจำ ตลาดกลางคืนเกิ่นเทอแห่งนี้ จะอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นสถานที่แหล่งรวมคนในละแวกนั้น หากออกกำลังกายหรือเดินเล่นเหนื่อย ผู้คนก็จะมาแวะพักดื่มชา จิบกาแฟ หรือมาซื้อของอร่อย ๆ ทานกัน ซึ่งเมนูอาหารแนะนำ ที่นักท่องเที่ยวอย่างเราต้องไปลิ้มรสความอร่อยกันก็คือ อาหารแบบ Street Foods แนะนะว่าต้องลองทานเมนูประจำชาติกันก่อนเลยคือ “ขนมปังฝรั่งเศส หรือ บาแก็ตเวียดนาม” ซึ่งจะมีแม่ค้าพ่อค้ามาขายกันอยู่หลาย ๆ เจ้าเลย เอาเป็นว่านักท่องเที่ยวอย่างเรา คงต้องลองเสี่ยงดวงดู กวาดสายตาให้ทั่ว ๆ ตลาดก่อน ร้านไหนคนมุ่งเยอะ คนต่อแถวแยะ ก็เข้าคิวซื้อตามกันได้เลยค่ะ แล้วนอกจากนี้ หากใครจะมาดูแหล่งซื้อขนม ของฝากติดไม้ติดมือกลับเมืองไทย ก็มาแวะช้อปปิ้งที่นี่กันได้เลย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า, กระเป๋า, เครื่องประดับแสนสวยหรือแม้ เมล็ดกาแฟคั่วใหม่ ๆ ก็หาได้จากตลาดกลางคืนเกิ่นเทอ
เมืองโบราณฮอยอัน
เมืองโบราณฮอยอัน หรือผู้คนจะนึกถึงว่าเป็น เมืองมรดกโลกสีมัสตาร์ด ซึ่งมีความสำคัญคือ ถูกรองรับว่าให้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่เป็นมรดกโลกจาก ยูเนสโก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ภายในบริเวณแห่งนี้เพื่อน ๆ จะสัมผัสได้ถึงเรื่องราวของวัฒนธรรมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น สะพานญี่ปุ่น จุดถ่ายรูปที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างอยากมาเก็บภาพความประทับใจกันเอาไว้ เป็นแลนด์มาร์คสุดเก่าแก่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างดินแดนทั้ง 2 ประเทศ โดยสะพานถูกสร้างขึ้นมาจากปูนและไม้อย่างสวยงามและด้านบนมุงด้วยหลังคาหลังคากระเบื้องดินเผา ที่มีลวดลายสวยงามอย่างประณีต ส่วนบริเวณด้านหลังของสะพานแห่งนี้เป็นศาลเจ้านั่นเอง แล้วยังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ ที่พวกเราควรไปก็คือ วัดฟุกเกี๊ยน มีความสำคัญคือ เป็นศูนย์รวมของชาวจีน ที่อพยพมาอยู่ที่ประเทศเวียดนาม เดินออกมาอีกหน่อย เจอสถานที่สุดชิลล์อย่าง แม่น้ำทูโบน ที่อยู่ติดกับเมืองโบราณฮอยอัน เพื่อนๆ จะเห็นว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนมากใช้บริการลองเรือชมความงามของสายน้ำและบ้านเมืองของที่นี่กันเป็นจำนวนมาก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักเที่ยวเที่ยวอย่างเราสุด ๆ ล่องเรือตอนกลางวันก็สวย ตอนพลบค่ำบรรยากาศก็สุดจะโรแมนติก สุดท้ายแล้วบริเวณรอบ ๆ ในเมืองโบราณแห่งนี้ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมายให้ทุกคนไปถ่ายรูป เดินเล่น ช้อปปิ้งหรือจะแวะพักจิบกาแฟที่ร้านคาเฟ่ต่าง ๆ